วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2008 เวลา 17:18 น.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------

         

รู้จักกับ Test of English as a Foreign (TOEFL)

 

  

          TOEFL หรือ Test of English as a Foreign Language : เป็นแบบทดสอบความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษ ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติ โดยการสอบเป็นแบบปรนัย เพื่อวัดความเข้าใจภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกาเหนือ) ซึ่งจัดสอบโดย ETS (Education Testing Service)  และพัฒนาขึ้นโดยสถาบันผลิตแบบทดสอบ Educational Testing Service (ETS) ที่เมืองพริ้นส์ตัน รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐ ฯ ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นองค์กรชั้นนำ ในด้านการพัฒนาแบบทดสอบ   ผลคะแนน TOEFL ใช้ประกอบการสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา และคานาดากว่า 2,400 แห่ง และเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานของสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วโลก  นับตั้งแต่มีการสอบโทเฟิล ใน ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมาจนกระทั่งปัจจุบัน มีนักเรียนนักศึกษาที่ร่วมสอบโทเฟิลแล้วกว่า 20 ล้านคน และ สถาบันการศึกษากว่า 4,500 แห่งทั่ว โลกใช้ผลสอบโทเฟิล (TOEFL) เพื่อ คัดเลือกนักเรียนนักศึกษาเข้าศึกษาต่อ   TOEFL เป็นข้อสอบที่วัดประสิทธิภาพทางภาษา (English Proficiency Test)    โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ผลการสอบในการสมัครเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก

 

           ในการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี-โท-เอกในต่างประเทศ จำเป็นต้องได้รับการทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งแบบทดสอบที่นิยมใช้ทดสอบกันแพร่หลายทั่วประเทศก็คือ TOEFL (Test of English as Foreign Language) ฉะนั้น ผู้ที่จะไปศึกษาต่อจะต้องได้รับการทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ และการทดสอบ TOEFL ที่ใช้ทดสอบมี 3 แบบ คือ PBT (Paper-based Test), CBT (Computer-based Test) และแนวใหม่ที่ทันสมัยขึ้นคือ iBT (Internet-based Test)

 

          ระหว่างปี 2001-2002 มีผู้ที่สมัครสอบ TOEFL แบบ CBT จำนวนกว่า 625,000 คนทั่วโลก กล่าวได้ว่า TOEFL เป็นการสอบแบบมาตรฐาน ที่วัดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อกับสถาบันการศึกษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางของการเรียนการสอน

 

          ในอดีตการสอบ TOEFL จะเป็นระบบการสอบแบบตอบในกระดาษ คำตอบ (Paper- Based Test) แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-Based Test) ซึ่ง นำมาใช้ในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย สำหรับ ประเทศไทยเริ่มใช้ในปี 2541  แม้ว่าค่าใช้จ่าย ในการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์จะเพิ่ม มากกว่าแบบตอบในกระดาษคำตอบถึง 33 % แต่การสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากการสอบแบบเดิม คือ คอมพิวเตอร์จะสามารถประเมิน ความสามารถของผู้สอบไปพร้อม ๆ กับการทำข้อสอบ และ สามารถคัดเลือกข้อสอบตามระดับความยากง่าย ตั้งแต่ง่าย ปานกลาง ยาก อีกทั้งยังสามารถ ประเมินระดับความสามารถทางภาษาของผู้สอบได้ขณะกำลังทำการสอบ ซึ่งทำให้เกิดความ รวดเร็วในการประเมินผลการสอบผู้สอบจึงสามารถ รู้ผลเร็วและสามารถส่งผลการสอบให้กับ มหาวิทยาลัยที่ได้สมัครไว้ได้ทันทีทางระบบออนไลน์โดยไม่ต้องเสียเวลา ในการรอคอยผล เหมือนในอดีต การสอบ TOEFL มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่การสอบระบบ paper-based แล้วเปลี่ยนมาใช้ระบบ computer- based ในปี 2543 กระทั่งจะมี และในปัจจุบันการสอบ TOEFL ได้เปลี่ยนแปลงเป็นการสอบแบบ IBT หรือ Internet Based Test  โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2548 ใช้ระบบออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตในการสอบ

 

โครงสร้างของข้อสอบ
          การสอบ TOEFL ในรูปแบบ Computer - Based Testing  ทาง ETS จะให้ผู้สอบทุกคน ได้ฝึกใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer - Based Tutorial) ก่อน และใช้ CD-ROM ทดลองทำก่อนการสอบจริง ซึ่งการทดสอบแบบ Computer - Based Testing จะแบ่งแบบทดสอบออกเป็น 4 ส่วน  คือ Listening, Structure, Reading และ Writing ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงครึ่งถึงสี่ชั่วโมง   ในแต่ละส่วน ประกอบด้วยคำถามและระยะเวลาในการใช้ทำแบบทดสอบไว้ดังนี้

 

(การเตรียมตัว (Tutorials) ไม่จำกัดเวลา แต่ไม่ควรใช้เวลานาน เพราะเวลารวมทั้งสิ้นไม่เกินสี่ชั่วโมง)

  • การฟัง (Listening)  เป็นการวัดความสามารถในการเข้าใจภาษาอังกฤษ ผู้สอบจะได้รับหูฟัง (headphones) สำหรับการฟังบทสนทนาและการพูดคุย ในขณะที่กำลังฟังอยู่ รูปภาพของผู้พูดหรือรูปภาพของรายละเอียดอื่นๆ จะปรากฏขึ้นอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ของผู้สอบ ข้อสอบการฟังจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยมีคำสั่งที่แตกต่างกันไป  ส่วนแรกจะเป็นการสนทนาสั้น ๆ และส่วนที่ ๒ จะเป็นการสนทนาที่ยาวขึ้น และการบรรยาย ในชั้นเรียน หรือการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการ บทพูดอาจมีความยาวไปจนถึง ๒ นาที ๓๐ วินาทีซึ่งจะมีคำถามหลายข้อสำหรับบทสนทนา เวลาในการสอบส่วนนี้คือ เวลา40-60 นาที จำนวน 30-50 ข้อ   ในการตอบผู้สอบอาจเปลี่ยนคำตอบได้จนกว่าจะยืนยันคำตอบ (Confirmed) ซึ่งเมื่อยืนยันแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับมา แก้ไขได้อีก
  • โครงสร้างทางภาษา (Structure)  เป็นการวัดความสามารถในการรับรู้ทางด้านภาษาอังกฤษที่เหมาะสม สำหรับการเขียนภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน และการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้อง ข้อสอบแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือ incomplete sentences โดยที่ด้านใต้ของแต่ละ sentence จะมีคำหรือประโยคให้เลือก 4 ข้อ ซึ่งผู้สอบจะต้องเลือกคำตอบที่เหมาะสมที่สุด รูปแบบที่ 2 คือคำถามที่มีคำหรือประโยคที่ขีดเส้นใต้ 4 ข้อ ผู้สอบต้องเลือกข้อที่ขีดเส้นใต้ กลุ่มคำลงในบริบทของประโยคให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์  เวลาในการสอบส่วนนี้คือ 15-20 -30 นาที จำนวน 20-25 ข้อ จากนั้นพัก 5 นาที 
  • การอ่าน (Reading) เป็นการวัดความสามารถในการอ่าน และการทำความเข้าใจบทความสั้นๆ คำถามในส่วนนี้ ประกอบด้วยบทความให้อ่าน และคำถามเกี่ยวกับบทความนั้นๆ การสอบในส่วนนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลการทำข้อสอบที่ได้ทำผ่านมาแล้ว ดังนั้นผู้สอบจึงสามารถย้อนกลับไปคำถามเดิมที่ผ่านมาแล้วได้ เวลาในการสอบส่วนนี้คือ 70-90 นาที จำนวน 44-55 ข้อ
  • การเขียน (Writing) เป็นการวัดความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษ ภายใต้หัวข้อที่กำหนดให้ ผู้สอบจะได้มีโอกาสในการแสดงความสามารถด้านการเขียน ซึ่งรวมถึงการสร้างและรวบรวมความคิด และการอ้างอิงถึงตัวอย่างหรือหลักฐาน และการเรียบเรียงเป็นบทความที่ใช้ภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน ในวันสอบ ผู้สอบจะมีเวลา 30 นาทีในการเขียนบทความ และก่อนที่ผู้สอบจะได้รับทราบเกี่ยวกับหัวข้อของการเขียน จะต้องเลือกก่อนว่าต้องการเขียนบทความบนกระดาษ หรือต้องการพิมพ์โดยใช้คอมพิวเตอร์ จากนั้น หัวข้อของบทความที่ต้องเขียนก็จะปรากฏขึ้นบนจอคอมพิวเตอร์ 

 

          ข้อสอบ TOEFL iBT (Internet-based Test of English as a Foreign Language (TM)) จะทดสอบเพิ่มอีก 1 ทักษะคือการพูด (Speaking) ซึ่งการพูดดังกล่าวมิใช่การพูดลักษณะบทสนทนาทั่วไป หากการพูดดังกล่าวเป็นการพูดลักษณะเสนอผลงาน (presentation)  ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากผู้ที่จะสอบได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้าสอบจริง  คุณสมบัติอื่นของการสอบแบบใหม่นี้รวมถึง การรายงานผลการสอบออนไลน์ภายใน 15 วันทำการ นอกจากนี้ ผู้สนใจยังสามารถทดลองทำข้อสอบได้ทาง TOEFL Practice Online ที่เว็บไซต์ www.ets.org/toeflpractice

 

           ที่ผ่านมาข้อสอบ TOEFL มีการเปลี่ยนแปลงทุก 5 ปี  เช่นปี 1995 มีการยกเลิกข้อสอบคำศัพท์แบบท่องจำจำนวน 30 ข้อ (หลายคนที่คลุกคลีกับข้อสอบ TOEFL จะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้โรงเรียนที่สอน TOEFL ด้วยระบบท่องจำและแตกรากศัพท์จำนวนหนึ่งหมดความนิยมไป) และต่อมาในปี 2000 เริ่มการสอบระบบ Computer-Based แทนระบบ Paper-Based มีการนำเทคโนโลยีและแนวคิดเรื่อง Adaptive (ซึ่งกำหนดระดับความยาก-ง่ายของข้อสอบตามผลของการตอบถูกหรือผิดในข้อก่อนหน้านั้น) มาใช้ และกำหนดให้ผู้เข้าสอบทุกคนต้องทำข้อสอบการเขียน (TWE)

 

          TOEFL iBT ได้เริ่มจัดสอบที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคม 2005 และเริ่มจัดสอบระบบเดียวกันนี้ในประเทศไทยในเดือนเมษายน 2006 การสอบดังกล่าวจะเป็นการสอบผ่านสื่อ Internet   การสอบ TOEFL สามารถสอบได้เดือนละ 1 ครั้ง (ตามปฏิทิน) แต่จะลงสอบทั้งหมดกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีจำกัด โดยผลสอบ TOEFL มีอายุใช้ได้ 2 ปี อัตราค่าสมัครสอบ TOEFL ณ ปัจจุบันเท่ากับ 140 ดอลลาร์สหรัฐ (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2546) http://www.iiethai.org/www/testing.htm

 

  

การสมัครสอบ TOEFL ในประเทศไทย

 
       ปัจจุบันการสมัคร TOEFL เพื่อสอบในประเทศไทย สามารถกระทำได้ดังนี้

  • การใช้บัตรเครดิตและสมัครทางโทรศัพท์
    ที่ต้องการสอบที่ศูนย์สอบภายในประเทศไทย ต้องโทรศัพท์ติดต่อกับ Regional Registration Center – RRC ของประเทศไทย อย่างน้อย 3 วันก่อนวันที่ต้องการจะสอบ นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องมีข้อมูลของบัตรเครดิตที่ถูกต้อง ของบัตร VISA, MasterCard หรือ American Express จากนั้นผู้สมัคร จะได้รับหมายเลขยืนยันการสมัคร หรือ Appointment Confirmation Number ซึ่งผู้สมัครควรเตรียมจดบันทึกไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ผู้สมัครยังต้องตอบคำถามทั่วไป ซึ่งสามารถดูตัวอย่างคำถามได้จากแบบฟอร์มการสมัครสอบนานาชาติ หรือ International Test Scheduling Form
  • การกรอกแบบฟอร์มการสมัครสอบนานาชาติ (หรือ International Test Scheduling Form)
    สำหรับผู้ที่ต้องการสอบในประเทศไทย แต่ไม่ต้องการสมัครทางโทรศัพท์ สามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครได้ทางเว็ปไซต์   หรือกรอกใบสมัครพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต หรือเอกสารการชำระเงินค่าสอบ แล้วจัดส่งทางไปรษณีย์หรือส่งโทรสารส่งให้ถึง RRC อย่างน้อย 3 สัปดาห์ก่อนวันที่ต้องการสอบ   ผู้สมัครสามารถเลือกวันสอบที่ต้องการได้ 5 วัน และเลือกศูนย์สอบสำรองได้อีก 1 แห่ง    ทาง RRC จะจัดส่งหมายเลขยืนยันการสมัคร วันสอบ เวลารายงานตัว ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์สอบและเอกสารส่วนตัวที่ต้องนำติดตัวไปในวันสอบไปให้ยังผู้สมัครทางโทรสาร ไปรษณีย์หรือ e-mail ในกรณีที่ผู้สมัครยังไม่ได้รับหมายเลขยืนยันการสมัคร สามารถโทรไปตรวจสอบกับ RRC ได้ โดยติดต่อกับ RRC อย่างน้อย 3 วันก่อนสอบ     

 

          สำหรับประเทศไทย สามารถติดต่อ Institute of International Education (IIE) ชั้น 9 ตึกซิตี้แบงค์ 82 ถ.สาทรเหนือ บางรัก กทม. 10500 โทร. 639-2700-2 E-mail : iiethai@bkk.iie.org ผู้สนใจสมัครสอบควรทำการสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสถานที่สอบ และวันเวลาที่สอบที่แน่นอน  ซึ่งทำได้โดยการ โทรศัพท์ปรึกษา จดหมาย อีเมล์ หรือ แฟกซ์ เพื่อขอรับ คู่มือและใบสมัครสอบกรอกแบบฟอร์ม แล้วส่งไปยัง IIE พร้อมกับเงินจำนวน 140 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งชำระด้วย ดราฟท์ (Bank Draft) เท่านั้น



 ระยะเวลาการสอบ

          การสอบมีตลอดทั้งปี โดยต้องสมัครอย่างน้อยสามวันก่อน วันที่จะสอบ และสามารถสอบได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น เดือนที่มีการสอบมากที่สุดคือ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม เมษายน และ พฤษภาคม หากสมัครแล้ว ต้องการยกเลิกการสอบในครั้งนั้น ผู้สมัครจะได้รับเงินคือ 65 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสอบแล้วต้องการยกเลิกคะแนนสอบในครั้งนั้น สามารถทำได้โดยรอสอบใหม่ในครั้งต่อไป

การเข้าสอบ

          ศูนย์สอบ TOEFL แบบ computer-based test ในประเทศไทย
          Institute of International Education - Southeast Asia (IIE)
          6th Floor, Maneeya Center North
          518/3 Ploenchit Road
          Pathumwan, Bangkok 10330
          โดยมีการจัดสอบตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ในแต่ละสัปดาห์


หลักฐานสำคัญในการเข้าห้องสอบ 

          เมื่อผู้สอบเดินทางไปถึงศูนย์สอบ สำหรับการสอบ TOEFL แบบ computer-based test จะต้องแสดงเอกสารต่างๆ ดังนี้

          ♦ บัตรประจำตัวอย่างเป็นทางการ ที่มีรูปถ่ายของผู้สอบ
          ♦ เบอร์ยืนยันการสมัคร ที่ได้รับเมื่อมีการนัดเวลาสอบ
          ♦ ชื่อสถาบันการศึกษาและคณะที่ต้องการจัดส่งรายงานผลการสอบไปให้ โดยที่ทางศูนย์สอบ จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ code lists ให้เลือก
          ♦ CBT Voucher (ถ้ามี)   
          ♦ บัตรประจำตัวผู้สอบ ที่ติดรูปมาเรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญต้องติดด้วยกาว หรือ เทปใส เท่านั้น หากไม่ได้รับบัตรประจำตัวสอบ ควรจด รหัส สถานศึกษาที่ต้องการให้จัดส่งใบแจ้งผลการสอบ และหลักฐานที่ออก โดยทางราชการ ที่สามารถแสดงได้ว่าเราคือผู้เข้าสอบ อาทิ พาสปอร์ต หรือ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ บัตรประจำตัวพนักงานหรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ จดหมายรับรองตามที่ ETS กำหนดรูปแบบไว้


การรับทราบผลการสอบ

     ผู้สอบจึงสามารถทราบผลการสอบภาคการฟังและการอ่านได้ทันทีหลังเสร็จสิ้นการสอบ สำหรับภาคโครงสร้างภาษา และการเขียนจะต้องรอผลการตรวจประมาณ ๒ สัปดาห์     ช่วงของคะแนนการสอบทั้ง ๔ ภาค อยู่ระหว่าง  ๐ ถึง ๓๐๐ ซึ่งเป็นค่าที่ได้มาจากผลรวมของคะแนนทั้ง ๔ ภาค แล้วนำมาผ่านกระบวนการทางสถิติ นอกจากการสอบ ๔ ภาคหลักยังมีการสอบการพูด (Test of Spoken English-TSE)    การสอบพูดจะจัดสอบในห้องปฏิบัติการทางภาษา (Language Laboratory) ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที ผู้สอบจะต้องอ่านและตอบคำถามต่าง ๆ บันทึก ลงในเทปโดยไม่มีการเขียนใด ๆ ลงไปในการตอบคำถาม การตัดสินคะแนนจะพิจารณาความ สามารถในการเข้าใจ การออกเสียง ไวยากรณ์ และสมบูรณ์ของการพูด


          หลังการสอบ ผู้สอบจะทราบคะแนนการสอบในส่วนของ Listening และ Reading ได้ทันที แต่ในส่วนของ Structure/Writing และคะแนนรวม จะยู่ในรูปแบบช่วงคะแนน    และเมื่อดูคะแนนแล้ว ผู้สอบสามารถเลือกสถาบันที่ต้องการให้ส่งรายงานผลการสอบไปให้ได้ 4 สถาบัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่หากมากกว่า 4 แห่ง จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สถาบันละ US$ 15


          รายงานผลสอบอย่างเป็นทางการ ทาง ETS จะจัดส่งไปให้กับผู้สอบทางไปรษณีย์   ภายในระยะเวลา 14 วันหลังจากวันสอบ (ในกรณีที่เลือกการพิมพ์ในส่วนของ essay) หรือประมาณ 5 สัปดาห์หลังจากวันที่สอบ (หากเลือกการเขียนด้วยลายมือในส่วนของ essay)  กรณีที่ผู้สอบต้องการทราบผลสอบเร็วกว่านี้ โดยไม่ต้องการรอไปรษณีย์ เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวข้างต้น ก็สามารถตรวจสอบคะแนนทางโทรศัพท์ได้ โดยเสียค่าบริการโทรครั้งละ US$ 10 (ชำระโดยบัตรเครดิตของ (American Express, Discover, JCB, MasterCard, หรือ VISA) เปิดให้บริการทุกวัน (เวลาท้องถิ่นของ NY) 7.00 น. – 22.00 น. เบอร์โทรศัพท์ 1-609-771-7267

 


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ TOEFL สามารถดูได้จาก www.toefl.org

หรือโทรไปสอบถามที่ 02-652-0602-3

สมัครและเลือกสอบได้สะดวกมีสอบทุกวันจันทร์-ศุกร์

รอบเช้า เริ่มสอบเวลา 9.00 น

รอบบ่าย เริ่มสอบเวลา 13.00 น

 

ศูนย์สอบ

Prometric Testing Center

สถาบันการศึกษานานาชาติ IIE

ชั้น 6 อาคารมณียาเหนือ

โทร 02 6520653-4

 



ศูนย์ลงทะเบียน

Prometric B.V Branch Office

P.O. Box 12964

50794 Kuala Lumpur, Malaysia

Registration Phone (007) 603 7628 3333

Fax (007) 603 7628 3366

 

 

Prometric Test Center:

INSTITUTE OF INTERNATIONAL EDUCATION

6TH FLOOR MANEEYA CENTER NORTH

518/3 PLOENCHIT RD, PATHUMWAN

BANGKOK, THAILAND - 10330



ระดับคะแนน

     การฟัง Listening 0-30

     ไวยากรณ์ และ การเขียน Structure/Writing 0-30

     การอ่าน Reading 0-30

     คะแนน รวม Total 0-300

     คะแนนความเรียง Essay แบ่งเป็นเจ็ดระดับ คือ 0-6

     ข้อสอบจะเพิ่มการสอบ Writing


เทคนิคการเตรียมตัวสอบ

  1. เขียนชื่อ - นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ ให้นามสกุลขึ้นต้นก่อน ตามด้วยชื่อจริง เมื่อต้องติดต่อ กับ ETS ซึ่งเป็นผู้จัดสอบ 
  2. ควรจะเตรียมส่งใบสมัครสอบ พร้อมกับการชำระค่าสอบล่วงหน้า อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนถึงวัน Deadline และควรจะใช้ใบสมัครสอบ ที่ทาง ETS จัดเตรียมไว้ให้ใน คู่มือการสมัคร
  3. หลังจากที่สมัครสอบแล้ว ผู้สอบจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สอบสำหรับการสอบอ
  4. คะแนนสอบ มีอายุ 2 ปี
  5. จัดเตรียมรูปถ่าย เพื่อติดบัตรประจำตัวผู้สอบ (Admission Ticket) 
  6. ควรรายงานตัวที่สนามสอบ ก่อนเวลาที่ระบุไว้ในบัตรสอบ

  

 แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. ETS http://www.ets.org/ toefl/

...........................................................

 

 

จำนวนผู้เยี่ยมชม

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้415
mod_vvisit_counterเมื่อวานนี้706
mod_vvisit_counterเดือนนี้18485
mod_vvisit_counterผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด6905109

Who's Online

เรามี 25 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

ความคิดเห็น

ท่านใช้งานส่วนใดของสาระดีดี.คอม มากที่สุด